แผนการ “แจกจ่ายค่าธรรมเนียม” ของ Aave ถือเป็นชัยชนะสำหรับผู้ถือเหรียญ

Aave โปรโตคอลผู้ให้บริการสินเชื่อทางการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) กำลังพิจารณาในการใช้งาน “Fee Switch” เพื่อ ‘แจกจ่ายค่าธรรมเนียม’ และสร้างจูงใจให้เกิดการมีส่วนร่วมและการลงทุนภายในระบบนิเวศของตน

Marc Zeller ผู้ก่อตั้ง Aave Chan Initiative ได้เปิดเผยถึงแผนการเชิงกลยุทธ์ล่าสุดนี้ในระหว่างการสนทนาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X

Aave กำลังพิจารณาเรื่อง ‘Fee Switch’

Zeller กล่าวว่าองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (DAO) ของแพลตฟอร์มในปัจจุบันมีรายได้สุทธิประมาณ 60 ล้านดอลลาร์ต่อปี เงินจำนวนมหาศาลนี้ครอบคลุมต้นทุนการดำเนินงานของแพลตฟอร์ม (ที่ราวๆ 12 ล้านดอลลาร์) ได้เป็นเวลานานกว่าครึ่งทศวรรษ ด้วยเหตุนี้ Zeller จึงได้ประกาศว่า พวกเขาจะมีการพิจารณาในเรื่องการเปิดใช้งาน “Fee Switch” ในช่วงสัปดาห์หน้า

โดยพื้นฐานแล้ว ‘Fee Switch’ จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถเปิดหรือปิดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใช้งานที่เฉพาะเจาะจงได้ สำหรับ Aave นี่อาจจะหมายถึงการ แจกจ่ายค่าธรรมเนียม ที่ได้มาจากธุรกรรมให้กับผู้คนที่ใช้งานแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะผู้ที่ถือหรือล็อกเหรียญ Aave เอาไว้กับเครือข่าย

จากข้อมูลบนเครือข่ายของ DeFiLlama แสดงให้เห็นว่า Aave เป็นโปรโตคอลผู้ให้บริการสินเชื่อที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม โดยมีสินทรัพย์ดิจิทัลที่ล็อกไว้บนเครือข่ายเป็นมูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่คลังของ Aave มีการเงินสำรองกว่า 50.3 ล้านดอลลาร์ในที่อยู่กระเป๋าเงินกว่า 10 แห่ง หลังจากประกาศการใช้งานระบบ Fee Switch ราคาของ Aave ก็เพิ่มขึ้น 4% ขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 120 ดอลลาร์

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: การคาดการณ์ราคา Aave (AAVE) ในปี 2023/2025/2030

แม้ว่า Aave จะเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แต่ก็เป็นน่าสังเกตว่า นี่ไม่ใช่โปรโตคอล DeFi ตัวแรกที่เลือกใช้งานระบบ Fee Switch เมื่อไม่นานมานี้ Frax Finance Governance ได้อนุมัติข้อเสนอในการนำเอาระบบ Fee Switch มาใช้งานเช่นเดียวกัน และ Uniswap กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ ก็กำลังอยู่ในระหว่างสรุปข้อเสนอเพื่อหันมาใช้งานระบบ Fee Switch ของพวกเขาเช่นเดียวกัน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: 11 DeFi Protocols ชั้นนำที่คุณต้องจับตามองในปี 2024

เมื่อเร็วๆ นี้ Aave DAO กำลังยุ่งอยู่กับข้อเสนอมากมายที่กังวลเกี่ยวกับการดำเนินงานของพวกเขา ข้อเสนอที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ณ ขณะนี้ ก็คือ การลดการมีส่วนร่วมกับ DAI หลังจากที่ MakerDAO ประกาศความตั้งใจที่จะลงทุนสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในเหรียญ Stablecoin สังเคราะห์อย่าง USDe ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว