เจฟฟ์ พาร์ค หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัลฟ่าที่ Bitwise Asset Management กล่าวว่าสงครามภาษีที่ยืดเยื้ออาจส่งผลดีต่อบิทคอยน์อย่างมากในระยะยาว
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กำหนดภาษีศุลกากรกับแคนาดา เม็กซิโก และจีน
Sponsoredสงครามภาษี: ดีต่อ Bitcoin?
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ กำหนด ภาษี 25% สำหรับการนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนี้ยังมีการกำหนดภาษี 10% สำหรับสินค้าจีนและทรัพยากรพลังงานจากแคนาดา ตามรายงานของ BBC แคนาดาและเม็กซิโกก็ได้ประกาศแผนการกำหนดภาษีตอบโต้เช่นกัน
ในโพสต์ล่าสุดบน X พาร์คได้อธิบายถึงปัญหา Triffin และวัตถุประสงค์ส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่ออธิบาย การเพิ่มขึ้นของบิทคอยน์ในระยะยาว
“ภาษีอาจเป็นเพียงเครื่องมือชั่วคราว แต่ข้อสรุปถาวรคือบิทคอยน์ไม่เพียงแต่จะสูงขึ้น แต่ยังเร็วขึ้น” พาร์ค เขียน
พาร์คอธิบายว่าปัญหา Triffin เกิดจาก สถานะของ USD ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก ซึ่งให้สิทธิพิเศษที่มากเกินไป สิทธิพิเศษนี้ส่งผลให้เกิดสามผลกระทบเชิงโครงสร้าง: USD ที่มีมูลค่าสูงเกินไป การขาดดุลการค้าที่ต่อเนื่อง และต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลงสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ
แม้สหรัฐฯ จะได้รับประโยชน์จากการกู้ยืมที่ถูกลง แต่ก็พยายามแก้ไข ความไม่สมดุลของ USD ที่มีมูลค่าสูงเกินไป และการขาดดุลการค้าที่ต่อเนื่อง ดังนั้นพาร์คจึงเสนอว่าภาษีกำลังถูกใช้เป็นกลยุทธ์การเจรจาเพื่อผลักดันให้เกิดข้อตกลงระหว่างประเทศใหม่ ซึ่งเขาอ้างว่าเหมือนกับข้อตกลง Plaza Accord ในปี 1985 ที่มุ่งเน้นการทำให้ USD อ่อนค่าลง
นอกจากนี้ พาร์คยังอ้างว่าทรัมป์มีส่วนได้เสียส่วนตัวในกลยุทธ์นี้ เนื่องจากเขามีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มาก วัตถุประสงค์หลักของเขาคือการลดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี
ในสถานการณ์ที่ USD อ่อนค่าและอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ลดลง สินทรัพย์เสี่ยงในสหรัฐฯ อาจพุ่งสูงขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจต่างประเทศต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการลดค่าเงิน เมื่อเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเงิน พาร์คคาดการณ์ว่านักลงทุนทั่วโลกจะหันไปหาสินทรัพย์ทางเลือก
“สินทรัพย์ที่ควรถือครองคือบิทคอยน์” พาร์คกล่าว
เขาเน้นย้ำว่าเมื่อความตึงเครียดทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น การขึ้นของบิทคอยน์จะเร่งตัวขึ้น
ภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้ตลาดคริปโตล่ม
Sponsoredในขณะเดียวกัน ภัยคุกคามจากสงครามการค้าทำให้ ตลาดคริปโตดิ่งลง ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา บิทคอยน์ลดลงชั่วคราวถึงระดับต่ำสุดที่ $91,281 ในขณะที่อีเธอเรียมลดลงถึง $2,143 ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหลายพันล้านถูกลบออกจากตลาด
ตามข้อมูลจาก Coinglass การล้างพอร์ตทั้งหมดเกิน $2.23 พันล้านในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
เหตุการณ์ล้างพอร์ตที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในวันเดียว นักวิเคราะห์คริปโต Miles Deutscher โพสต์บน X (เดิมคือ Twitter)
Deutscher เสริมว่ามันแย่กว่าการล่มสลายของ LUNA และ FTX ซึ่งมีการล้างพอร์ต $1.6 พันล้าน
จากการล้างพอร์ตทั้งหมด $1.88 พันล้านมาจากตำแหน่งยาว และ $349.81 ล้านจากตำแหน่งสั้น รวมแล้วมีนักเทรด 726,788 คนถูกล้างพอร์ต
