Disney ปลดพนักงาน กว่า 7,000 คน หยุดแผนพัฒนาเมตาเวิร์ส เพื่อลดต้นทุนกิจการ ตามเป้าหมายควบคุมต้นทุนกว่า 5,500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.84 แสนล้านบาท
โดยดิสนีย์ปลดทีมพัฒนาเมตาเวิร์สของตนออกทั้งทีม ทำให้ Disney กลายเป็นบริษัทอีกแห่งที่ต้องใช้มาตรการลดค่าใช้จ่าย
SponsoredWall Street Journal เผยว่า Disney โละทีมพัฒนาเมตาเวิร์สของตนเองเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยอ้างถึงแหล่งข่าวที่มีส่วนใกล้ชิดกับเหตุการณ์ครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังเสริมว่า Disney กำลังพยายามปรับโครงสร้างภาพรวมขององค์กร โดยคาดว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะปลดพนักงาน 7,000 คน
อุตสาหกรรมต่าง ๆ พากันลดค่าใช้จ่าย
ทีมเมตาเวิร์สประกอบด้วยพนักงาน จำนวน 50 คน ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกปลด แต่หัวหน้าทีม Mike White จะยังคงทำงานกับบริษัท แต่ยังไม่มีการยืนยันตำแหน่งใหม่
ในปี 2022 Disney กลายเป็นข่าวเมื่อประกาศแผนการจะสร้างเมตาเวิร์ส และย้ำว่านวัตกรรมนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับสื่อบันเทิง
กลับกลายเป็นว่า Disney ต้องตบเท้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทที่ใช้นโยบานลดต้นทุนเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็น Meta, Microsoft, Google, Twitter และบริษัทอื่น ๆ ล้วนปลดพนักงานไปแล้วหลายพันคน เหล่านี้ล้วนเป็นผลลัพธ์ตกค้างจากโควิด 19
การว่างงานกลายเป็นปัญหาหลักในปี 2023 บริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมคริปโตอย่าง Coinbase, Polygonและ Immutable ล้วนปลดพนักงาน
Disney เคยกระตือรือร้นกับเมตาเวิร์สอย่างมาก
รายงานในปี 2022 พูดถึงแผนการพัฒนาเมตาเวิร์สของ Disney ว่าจะสร้างมาตรฐานใหม่ในการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า
บริษัทมี IP และเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานหลายร้อยหรือหลายพันล้านคนทั่วโลก และโครงการนี้อาจจะมีศักยภาพมากที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการเมตาเวิร์สต่าง ๆ
Sponsoredนอกจากนี้ Disney ยังได้รับสิทธิบัตรสำหรับการสร้างสวนสนุกในมเตาเวิร์ส ซึ่งเป็นที่ยินดีของชุมชนคริปโต บริษัทยังประกาศตำแหน่งงานว่างที่เกี่ยวข้องกับ NFT เมื่อไม่นานมานี้ โดยได้แต่งตั้ง Bob Iger ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเมตาเวิร์ส ให้เป็น CEO ของบริษัทอีกครั้ง
ขณะนี้ ราคาหุ้นของบริษัทอยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดในระยะยาวที่ประมาณ 95 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น

บริษัทเทคฯ ถอนตัว ยุบทีม Metaverse หรือ อย่างที่ Disney ปลดพนักงาน
ทีมพัฒนาเมตาเวิร์สกลายเป็นทีมที่บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ปลดเพื่อลดต้นทุน เห็นได้จากการที่ Meta และ Microsoft ยุติหรือลดขนาดแผนพัฒนาเมตาเวิร์สของตน
Meta กำลังประสบกับ “Year of Efficiency” ตามที่ Mark Zuckerbeg ผู้เป็น CEO กล่าว เนื่องจากทีม Reality Labs ของ Meta ใช้ต้นทุนในการพัฒนาอย่างมาก นอกจากนี้ Microsoft ยังยุบแผนกอุตสาหกรรมเมตาเวิร์สทั้งหมด ทำให้พนักงานราว 100 คนโดนปลด