ย้อนกลับ

Gemini เปิดให้เหยื่อ Voyager สามารถถอนเงินออกได้แล้ว

sameAuthor avatar

เขียนและแก้ไขโดย
Nonthachai Sukkankosol

28 มิถุนายน พ.ศ. 2566 16:17 ICT
เชื่อถือได้
  • การไถ่ถอนสินทรัพย์คืน
  • อนาคตของ Gemini
Promo

Gemini เปิดช่องทางการถอน crypto สำหรับลูกค้าของ Voyager Digital ที่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายเพราะเหตุการณ์ FTX เมื่อปีที่แล้ว โดยจะสามารถทำรายการถอนได้จนถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2023

นอกจากนี้ ทางกระดานแลกเปลี่ยนวางแผนที่จะเสนอโปรโมชั่นพิเศษเป็นเงิน BTC มูลค่า 5 ดอลลาร์ ให้กับลูกค้าใหม่ในสหรัฐอเมริกาที่ย้ายมาจาก Voyager ที่ล้มละลาย หลังจากที่พวกเขาลงทะเบียนและได้รับการยืนยันภายใน 30 วันหลังจากเปิดบัญชี

การไถ่ถอนสินทรัพย์คืน

Sponsored
Sponsored

ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถสั่งสมาชิกกับทางกระดานเทรดเพื่อรับทรัพย์สินของตนเอง ที่ติดค้างอยู่คืนได้ แต่ยังมีข้อจำกัดอยู่ คือเหรียญคริปโตที่ทางกระดานเทรดไม่รองรับ จะไม่สามารถถูกโอนมาเพื่อไถ่ถอนได้

ทางกระดานซื้อขายจึงจำเป็นต้องแจ้งให้นักลงทุนทราบว่า “นักลงทุนสามารถส่งโทเค็นที่รองรับ” มายังแพลตฟอร์มได้เท่านั้น และการส่งเหรียญที่ไม่รองรับเข้ามา “อาจทำให้สินทรัพย์สูญหายและไม่สามารถกู้คืนได้อีกต่อไป”

นอกจากนี้ การส่งโทเค็นผ่านเครือข่ายที่ไม่รองรับจะส่งผลให้สูญเสียเงินทั้งหมดเช่นกัน กรณีที่ หากผู้ใช้งานไม่สามารถถอนโทเค็นออกจากแพลตฟอร์ม Voyager ในช่วงระยะเวลาการถอนที่กำหนดไว้ สินทรัพย์ทั้งหมดจะถูกชำระบัญชีและแจกจ่ายเป็นเงินสดให้กับพวกเขาในภายหลังแทน ในเบื้องต้นลูกค้าจะได้รับเงินคืนจำนวน 35.72% จากสินทรัพย์ทั้งหมด

อนาคตของ Gemini

ก่อนหน้านี้ Voyager ล้มเหลวในการเจรจาหานักลงทุนมาซื้อกิจการผ่านข้อตกลง 2 ฉบับหลังจากล้มละลาย ครั้งแรกกับ FTX US แต่ข้อตกลงมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ล้มเหลวหลังจาก FTX ยื่นฟ้องล้มละลาย ต่อจากนั้น ข้อตกลงมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์กับ Binance US ซึ่งล้มเหลวหลังจากที่ฝ่ายหลังถอนตัว โดยอ้างถึง “บรรยากาศด้านกฎระเบียบที่ไม่เป็นมิตรและไม่แน่นอน” ในประเทศ

ด้าน Gemini เองก็กำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในด้านกฎระเบียบในสหรัฐเช่นกัน ซึ่งทำให้ต้องย้ายการดำเนินงานออกนอกประเทศ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางกระดานได้เปิดตัวโปรแกรม staking Ethereum ในสหราชอาณาจักร เพื่อให้สถาบันและบุคคล High net-worth สามารถเปิด validator บนบล็อกเชนเองได้ ทางกระดานซื้อขายยังวางแผนที่จะสร้างสำนักงานแห่งในสิงคโปร์และอาจมีพนักงานมากกว่า 100 คน

นอกจากนี้ ทางบริษัทกำลังเริ่มขอใบอนุญาตด้านการให้บริการคริปโตที่ United Arab Emirates (UAE) หลังจากกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกาเริ่มมีความตึงเครียดสูงอีกด้วย

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิดเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ ทั้งนี้เป็นไปตาม แนวทางของ Trust Project ของเรา และโปรดอ่าน ข้อกำหนดและเงื่อนไข, นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ ของเรา