ย้อนกลับ

ภาษีคริปโต 2567 สรุปใครต้องเสียบ้าง วิธียื่นภาษีคริปโต ฉบับอัปเดต 2023

author avatar

เขียนโดย
Nonthachai Sukkankosol

editor avatar

แก้ไขโดย
Apinat Phosuwan

03 กันยายน พ.ศ. 2566 15:06 ICT
เชื่อถือได้

ภาษีคริปโต เป็นประเด็นหนึ่งที่นักลงทุนควรทราบ บทความนี้จะสรุปครบจบตั้งแต่ ข้อกฎหมายที่คุณควรรู้ และกรณีที่ต้องเสียภาษีจวบจนวิธีการคำนวณและวิธีการยื่นภาษี 2567 ที่ถูกต้อง

หลังจากกรมสรรพากรประกาศว่าจะเก็บภาษี ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2565 เหล่านักลงทุนไทยต่างจับตามองผลกระทบและอาจมีความกังวลว่าตนเองยื่นภาษีได้ถูกต้องหรือไม่ และอาจยังไม่ทราบว่า กฎหมายภาษีคริปโตล่าสุดทาง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการอนุมัติการร่างกฎหมายบรรเทาภาระภาษีสำหรับการซื้อขายดิจิทัลแล้ว

ภาษีคริปโต คืออะไร

ภาษีคริปโต คือ ข้อบังคับตาม พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ที่กำหนดว่า นักลงทุนที่ทำกำไรหรือได้รับผลตอบแทนจากสินทรัพย์ดิจิทัล จำเป็นจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ร้อยละ 15 ของกำไร โดยทางกรมสรรพากรได้มีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้ โดยแบ่งรายละเอียดของรายได้เพิ่มเติมอีก 2 ประเภท ดังนี้

  • รายได้จากการถือครองโทเคนดิจิทัลและคริปโตเคอเรนซี่
  • กำไรจากการขายโทเคนดิจิทัลและคริปโตเคอเรนซี่
Sponsored
Sponsored

ดังนั้นหากรายได้ของนักลงทุนอยู่ภายใต้เงือนไขดังกล่าว คุณจะต้องเสียภาษีเงินได้เพิ่มเติม ซึ่งรายได้ส่วนนี้ถูกระบุแยกออกจากรายได้จากการทำงานและการประกอบธุรกิจ

ข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับการเสียภาษีคริปโต

ใน พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2561 ได้ระบุมาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดเก็บภาษีคริปโตไว้ดังนี้

  • มาตรา 40 (4) (ซ) เงินส่วนแบ่งของกำไร หรือผลประโยชน์อื่นใดในลักษณะเดียวกันที่ได้จากการถือหรือครอบครองโทเคนดิจิทัล
  • มาตรา 40 (4) (ฌ) ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล ทั้งนี้ เฉพาะซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน
  • มาตรา 50 (ฉ) ในกรณีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) (ซ) และ (ฌ) ให้คำนวณหักในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้

กรณีที่คุณต้องเสียภาษีคริปโตในไทย

จาก 3 มาตรานี้ นอกจากการเทรดที่ทำกำไรได้จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% แต่ผลิตภัณฑ์ที่ให้ดอกเบี้ยคริปโตต่างๆ ก็เข้าเงือนไขต้องยื่นภาษีเช่นกัน โดยสามารถระบุเป็นกรณีต่างๆ ได้ดังนี้

การทำกำไรจากการลงทุน

กรณีนี้อยู่ภายใต้ “มาตรา 40 (4) (ฌ)” ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับ การเทรดคริปโตเคอเรนซี่ กำไรจะถูกคำนวณเป็นรายครั้ง หมายความว่า ทุกๆ ครั้งที่มีการซื้อหรือขายสินทรัพย์

รายการเหล่านั้นต้องถูกนำไปคำนวณ โดยนำราคาขายมาลบกับราคาต้นทุน เพื่อคำนวณออกมาเป็นกำไร โดยอ้างอิงจากราคา ณ เวลาที่เกิดการซื้อขายบนกระดานแลกเปลี่ยนที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องกับ ก.ล.ต.

ได้รับ Airdrop ต้องเสีย ภาษีคริปโต หรือไม่

กรณีอยู่ภายใต้ “มาตรา 40 (8)” เมื่อนักลงทุนได้รับรางวัล หรือผลตอบแทนเป็น Airdrop จะเข้าเงือนไขโดยต้องรายงานรายได้ส่วนนี้เพื่อไปคำนวณและเสียภาษีประจำปี โดยระบุเป็นกรณี “ได้รับคริปโตเคอร์เรนซี่/โทเคนดิจิทัลจากการได้หรือได้รับเป็นรางวัล”

การขุดเหรียญคริปโต (Mining) ต้องเสียภาษีอย่างไร

กรณีนี้ “ยังไม่เข้าเงือนไขโดยตรง” แต่การขุดเหรียญคริปโต (Crypto Mining) เช่น การขุด Bitcoin จะต้องจ่ายภาษีก็ต่อเมื่อ เหรียญที่ได้รับมาถูก จ่าย โอน หรือ ขาย เท่านั้น ภายใต้ “มาตรา 40 (8)”  ซึ่งนักขุดคริปโตสามารถนำ “ต้นทุน” ค่าใช้จ่าย เช่น ค่าไฟ มาหักเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้

Sponsored
Sponsored

การคำนวณสามารถทำได้ 2 วิธี อย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ “First in- First out (FIFO) และ Moving Average Cost” แต่ผู้รายงานจะต้องใช้วิธีนั้นคำนวณภาษีไปตลอดทั้งปี ดังนั้นนักขุดควรบันทึกบัญชีต้นทุนและหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้อย่างระเอียดเพื่อผลประโยชน์ของคุณเอง

การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 กรณีนี้ให้แสดง “รายได้จากการขายคริปโตที่ขุดได้ในรายการรายได้จากการทำธุรกิจ ประเภทเงินได้จากธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง และเงินได้อื่น ๆ (มาตรา 40(8)) > ประเภทธุรกิจ : เงินได้อื่น ๆ > โปรดระบุ : รายได้จากการขายคริปโตฯ ที่ขุดได้ ตามภาพประกอบด้านล่างนี้

วิธีการยื่นภาษีจากรายได้คริปโต

ภาษีการเทรดบน กระดานภายในประเทศ กับ ต่างประเทศ

  • กรณีการเทรดกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย “สามารถนำส่วนที่ขาดทุนมาหักกลบได้”
  • กรณีการเทรดกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศ “ไม่สามารถนำส่วนที่ขาดทุนมาหักกลบได้”

เงื่อนไขการผ่อนปรนของกรมสรรพากร

กรมสรรพากรได้เสนอแนวทางการผ่อนปรนเกี่ยวกับภาษีคริปโต เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565 ไว้ดังนี้

ภาษีเงินได้

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำผลขาดทุนมาหักกลบกับกำไรที่ได้ในปีภาษีเดียวกันได้ โดยจะครอบคลุมเฉพาะกรณีที่คุณซื้อขายกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ดำเนินการอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เท่านั้น โดยมีเงือนไขพิเศษที่ได้รับการยกเว้นดังนี้

  • มีรายได้จากการเทรดคริปโตฯ เพียงอย่างเดียวและมีกำไรตลอดปีไม่เกิน 60,000 บาท กรณีนี้ไม่ต้องยื่นหรือเสียภาษี โดยสามารถยื่นขอคืนภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายได้
  • มีรายได้จากการเทรดคริปโตฯ เพียงอย่างเดียว และมีกำไรตลอดปีไม่เกิน 210,000 บาท กรณีนี้ต้องยื่นแต่ไม่ต้องเสียภาษี โดยสามารถยื่นขอคืนภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายได้เช่นกัน
Sponsored
Sponsored
  • อายุครบ 65 ปี หรือมีบัตรประจำตัวผู้พิการ และมีกำไรจากการขายคริปโตฯ ตลอดปีไม่เกิน 400,000 บาท กรณีนี้ต้องยื่นแต่ไม่ต้องเสียภาษี โดยสามารถยื่นขอคืนภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายได้เช่นกัน

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

การซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. จะไม่มีภาระในการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เพราะไม่สามารถระบุตัวตนผู้รับเงิน และจำนวนที่ตต้องหัก ณ ที่จ่ายได้ จนกว่าจะมีการปรับแก้กฎหมายเพิ่มเติมในอนาคต

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

ปัจจุบันการซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และสินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะได้รับการยกเว้นภาษี

วิธีคำนวณ ภาษีคริปโต ฉบับอัปเดตปี 2023

กรมสรรพากรกำหนดวิธีในการคำนวณต้นทุนสำหรับการเสียภาษีคริปโต ไว้ 2 วิธีดังนี้

วิธีการคำนวณภาษีแบบ First in-First out หรือ FIFO

การคำนวณแบบ FIFO หรือ เข้าก่อน-ออกก่อน คือ วิธีการคำนวณต้นทุนตามมูลค่าของเหรียญสกุลเดียวกันที่ซื้อมาเรียงไปตามลำดับการซื้อ แปลว่า รายการคริปโตที่เหลืออยู่ ณ วันสุดท้ายจะเป็นคริปโตที่ซื้อมาครั้งหลังสุด

ตัวอย่าง

นาย A ซื้อเหรียญ X จำนวน 1 เหรียญในราคา 100 บาทต่อเหรียญ ผ่านไป 1 อาทิตย์ นาย A ซื้อเหรียญ X เพิ่มอีก 1 เหรียญในราคา 200 บาทต่อเหรียญ

หากนาย A ขายสินทรัพย์และใช้วิธี FIFO คำนวณ นาย A จะต้องใช้ราคาของเหรียญ X ที่ถูกซื้อเข้ามาก่อนนั่นคือ 100 บาท มาคำนวณ ส่วนการขายครั้งที่ 2 จะต้องนำราคาของเหรียญที่ 200 บาท มาคำนวณกำไร

Sponsored
Sponsored

วิธีคำนวณภาษีคริปโตแบบ Moving Average Cost

วิธีการคำนวณแบบ ต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Cost) คือ การนำราคาต้นทุนที่ซื้อมาของเหรียญสกุลหนึ่งมาถัวเฉลี่ยเพื่อคำนวณเป็นต้นทุนของแต่ละเหรียญ

ตัวอย่าง

นาย A ซื้อเหรียญ X จำนวน 1 เหรียญในราคา 100 บาทต่อเหรียญ ผ่านไป 1 อาทิตย์ นาย A ซื้อเหรียญ X เพิ่มอีก 1 เหรียญในราคา 200 บาทต่อเหรียญ

หากนาย A ขายสินทรัพย์และใช้วิธี Moving Average Cost คำนวณ ร่น A ต้องนำมูลค่าเหรียญ X ทั้งหมดมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนของเหรียญ ในกรณีนี้คือ ((100 + 200) ÷ 2 = 150) ดังนั้นต้นทุนเฉลี่ยของราคาเหรียญ X จะเท่ากับ 150 บาท

วิธีคำนวณ ภาษีคริปโต ทำได้ 2 แบบ คือ Moving Average Cost กับ FIFO

ขั้นตอนการยื่น ภาษีคริปโต 2567

ขั้นตอนการยื่นภาษีสามารถทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์เดียวกันกับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยมีขั้นตอนดังนี้

1.เข้าสู่เว็บไซต์ (คลิกที่นี่)

2.เลือก “ยื่นแบบออนไลน์”

3.ไปที่ หัวข้อ “ดอกเบี้ย เงินปันผลจากบริษัทต่างประเทศ ประโยชน์ใด ๆ จาก คริปโตเคอร์เรนซี หรือ โทเคนดิจิทัล เงินเพิ่มทุน เงินลดทุน (มาตรา 40(4))”

4.กรอกข้อมูลตามที่คำนวณภาษีและการหัก ณ ที่จ่าย 15% ไว้

สรุปรายละเอียด ภาษีคริปโต 2567

การยื่น ภาษีคริปโต อย่างถูกต้องเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย หากคุณเป็นนักลงทุนการศึกษาเงือนไขและผลประโยชน์ทางภาษีเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะรายละเอียดของเงินได้จากช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเทรด, DeFi, Airdrop, หรือ การขุดคริปโตเคอเรนซี่ ในบางกรณีคุณอาจต้องยื่นภาษีแต่ไม่ต้องเสียภาษี ในบางกรณีคุณอาจได้รับการยกเว้นก็ได้เช่นกัน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ทั้งนี้เป็นไปตาม แนวทางของ Trust Project. การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์ โปรดดู ข้อกำหนดและเงื่อนไข, นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ ของเรา