ย้อนกลับ

เหตุผล 4 ประการที่ทำให้ Ethereum ไม่ใช่หลักทรัพย์: Consensys

sameAuthor avatar

เขียนและแก้ไขโดย
Akradet Mornthong

29 เมษายน พ.ศ. 2567 14:00 ICT
เชื่อถือได้
  • SEC อาจจะจัดประเภท Ethereum เป็นหลักทรัพย์ จุดประเด็นการโต้เถียงในเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
  • ลักษณะการกระจายอํานาจของ Ethereum ช่วยรองรับสถานะที่ไม่ใช่หลักทรัพย์ของมัน
  • การเปลี่ยนจาก PoW เป็นไป PoS ของ Ethereum ไม่ส่งผลต่อการจัดประเภท
Promo

Ethereum ซึ่งอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากสํานักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ (SEC) ได้รับการบอกเป็นนัยๆ ว่าจะถูกจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์ ความเคลื่อนไหวโดย ก.ล.ต. ในครั้งนี้ ได้จุดชนวนให้เกิดการโต้เถียงอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่มีจุดยืนที่ชัดเจนในปี 2018 ว่า Ethereum ไม่ตรงตามเกณฑ์ของการเป็นหลักทรัพย์

บริษัทซอฟต์แวร์บล็อกเชน Consensys ได้แสดงจุดยืนต่อต้านการพิจารณาในครั้งนี้ของ ก.ล.ต. ด้วยเหตุผลที่น่าสนใจ 4 ประการต่อไปนี้ ที่สนับสนุนว่าทําไม Ethereum จึงไม่ถูกจัดประเภทให้เป็นหลักทรัพย์

1. จุดยืนในอดีตของ SEC เกี่ยวกับ Ethereum

Sponsored
Sponsored

ในปี 2018 William Hinman ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของ SEC ได้เคยมีคำกล่าวที่ระบุว่า Ethereum ไม่ถือว่าเป็นหลักทรัพย์

“นอกเหนือจากการระดมทุนที่มาพร้อมกับการสร้าง [Ethereum] ตามความเข้าใจของผมเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของ [Ethereum] เครือข่าย Ethereum และโครงสร้างการกระจายอำนาจ ข้อเสนอและการขาย [Ethereum] ในปัจจุบัน ไม่ใช่การทำธุรกรรมด้านหลักทรัพย์” Hinman กล่าว

จุดยืนดังกล่าวของ ก.ล.ต. ถือเป็นรากฐานที่สําคัญของการโต้แย้งต่อความพยายามในการจัดประเภท Ethereum ใหม่อีกครั้ง อีกทั้ง ก.ล.ต. ยังไม่ได้มีการแย้งเรื่องสถานะนี้อย่างเป็นทางการ นำไปสู่ข้อสันนิษฐานที่แข็งแกร่งซึ่งการสนับสนุนสถานะที่ไม่ได้เป็นหลักทรัพย์ของ Ethereum ในปัจจุบัน

“หากอ้างอิงจากมุมมองของผู้อำนวยการ Hinman ในปี 2018 Ethereum ไม่มีความแตกต่างระหว่างปัจจุบันกับในช่วงปี 2018 ทั้งในแง่ของทฤษฎีและความเปิดกว้าง หากจะมีสิ่งใดที่แตกต่างออกไป ก็คงจะเป็นเรื่องจํานวนผู้พัฒนาและการที่ Ethereum ถูกนำไปใช้งานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม” โฆษกของ Consensys กล่าวกับ BeInCrypto

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงมุมมองอย่างกะทันหันของ ก.ล.ต. — โดยไม่มีหลักฐานใหม่ๆ หรือ สถานการณ์ใดๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป — ทำให้ดูเหมือนว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง และ เหมือนเป็นการท้าทายแนวทางการกํากับดูแลที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ตามอําเภอใจ

2. การที่ CFTC จําแนกประเภทเป็นสินค้าโภคภัณฑ์

Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกํากับดูแลอีกแห่งในสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวออกมาอยู่บ่อยครั้งว่า Ethereum เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ล่าสุด ในการดําเนินการทางแพ่งกับกระดานเทรดคริปโต KuCoin CFTC ได้ระบุประเภทของ Ethereum ว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์อย่างชัดเจน

Sponsored
Sponsored

“KuCoin ยอมรับคําสั่งซื้อ ยอมรับทรัพย์สินเป็นมาร์จิ้น และให้บริการแพลตฟอร์มสําหรับการซื้อขายฟิวเจอร์ส สวอป และธุรกรรมรายย่อยที่มีเลเวอเรจ มาร์จิ้น หรือการเงินที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึง Bitcoin (BTC), Ether (ETH) และ Litecoin (LTC)” CFTC ระบุ

การจัดหมวดหมู่ครั้งนี้สนับสนุนความเข้าใจในตลาดที่กว้างขึ้นและการจัดการด้านกฎระเบียบของ Ethereum โดยเน้นย้ําถึงบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างจากหลักทรัพย์ โฆษกของ Consensys กล่าวว่าการยอมรับสองครั้งโดย SEC ในอดีตและ CFTC ช่วยเสริมข้อโต้แย้งว่า Ethereum ดําเนินการภายใต้กรอบการกํากับดูแลที่บังคับใช้กับสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ใช่หลักทรัพย์

สิ่งนี้ตอกย้ำว่า Ethereum ถูกมองว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ใช่หลักทรัพย์ โฆษกของ Consensys ตั้งข้อสังเกตว่าการยอมรับ Ethereum จากทั้ง SEC และ CFTC ส่งเสริมข้อโต้แย้งที่ว่า Ethereum ถูกดำเนินการภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่ใช้กับสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ใช่หลักทรัพย์

“ก.ล.ต. ได้ประกาศอย่างชัดเจนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาว่า Ethereum เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนั้น ผมจึงมองว่า คุณไม่จำเป็นต้องมองไปไกลกว่าสิ่งที่ SEC เคยพูดในอดีตและสิ่งที่ CFTC พูดย้ำอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ซึ่งผลลัพธ์ที่ถูกต้องในกรณีนี้” โฆษกของ Consensys กล่าวเสริม

3. การกระจายอํานาจและโปรโตคอลแบบเปิด

Sponsored
Sponsored

สาระสําคัญของสถาปัตยกรรมของ Ethereum อยู่ที่การกระจายอํานาจ ซึ่งแตกต่างจากหลักทรัพย์อื่นๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หน่วยงานกลางจะควบคุมเพื่อประโยชน์ของคนวงในด้วยทฤษฎี Asymmetrical Information Ethereum ทํางานบนแพลตฟอร์มที่ข้อมูลทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้อย่างเปิดเผย

โปรโตคอลการกํากับดูแลและการดําเนินงานของเครือข่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานส่วนกลางใดๆ ดังนั้น มันจึงลบล้างเหตุผลหลักๆ ในการถูกจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์ เพื่อปกป้องนักลงทุนจากความไม่เท่าเทียมกันของข้อมูล

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Ethereum มีการกระจายอํานาจ มันไม่มีแกนหลักหรือกลุ่มก้อนใดๆ ไม่มีกลุ่มพัฒนาหลักที่มีสิทธิพิเศษในเรื่องข้อมูลภายใน ซึ่งเป็นองค์ประกอบทั่วไปประเภทหนึ่งที่จะต้องมีอยู่เพื่อทำให้มันกลายเป็นหลักทรัพย์ได้” โฆษกของ Consensys กล่าวกับ BeInCrypto

คุณลักษณะพื้นฐานของ Ethereum นี้สอดคล้องกับหลักการที่เป็นแนวทางในการตัดสินใจของ ก.ล.ต. ในปี 2018

4. ความไม่เกี่ยวข้องในเรื่องการเปลี่ยนแปลงกลไกฉันทามติ

Sponsored
Sponsored

การเปลี่ยนแปลงล่าสุดของ Ethereum จากกลไกฉันทามติ Proof-of-Work (PoW) ไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ได้รับการกล่าวอ้างโดย ก.ล.ต. ว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะต้องทำให้เกิดการจัดประเภทใหม่ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อลักษณะของการทํางานของ Ethereum หรือ ทำให้กลายเป็นหลักทรัพย์แต่อย่างใด

“ถ้าคุณดูจากคํากล่าวของผู้อำนวยการ Hinman ในปี 2018 เมื่อเขาบอกว่า Ethereum ไม่ใช่หลักทรัพย์ เขาไม่ได้ยึดตามหลักการของ PoW หรือ PoS กลไกฉันทามติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรในเรื่องนี้” โฆษกของ Consensys สรุป

การเปลี่ยนไปใช้กลไกฉันทามติ PoS ไม่ได้ก่อให้เกิดองค์ประกอบทั่วไปของการเป็นหลักทรัพย์ เช่น เงินปันผล หรือ สิทธิ์ความเป็นเจ้าของในองค์กรแบบรวมศูนย์ มันเป็นเพียงวิวัฒนาการทางเทคนิคที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ ความยั่งยืน โดยไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะทางพื้นฐานและกระจายอํานาจของแพลตฟอร์ม

อ่านเพิ่มเติม: Ethereum Merge: ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้

สรุปก็คือ การพิจารณาใหม่ของ ก.ล.ต. เกี่ยวกับ Ethereum ในฐานะหลักทรัพย์ไม่ได้อยู่ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการปฏิบัติด้านกฎระเบียบในอดีตของแพลตฟอร์มการจําแนกประเภทโดยหน่วยงานกํากับดูแลอื่นๆ

สรุปก็คือ แนวคิดที่ว่า Ethereum ควรได้รับการพิจารณาใหม่อีกครั้งจาก ก.ล.ต. ว่ามันเป็นหลักทรัพย์หรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบในอดีต การจำแนกประเภทโดยหน่วยงานอื่นๆ, ลักษณะของการกระจายอำนาจ, และ ความจริงที่ว่ากลไกฉันทามติภายไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลักทรัพย์แต่อย่างใด

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิดเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ ทั้งนี้เป็นไปตาม แนวทางของ Trust Project และโปรดอ่าน ข้อกำหนดและเงื่อนไข, นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ ของเรา