Vitalik Buterin หนุนไอเดียให้คืนเงินให้แก่นักลงทุนรายย่อยก่อน

Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้ทวีตสนับสนุนข้อเสนอที่เสนอให้ Terraform Labs คืนเงินให้กับผู้ถือกระเป๋าเงินรายย่อยที่ได้รับความสูญเสียหลังจากความผิดพลาดล่าสุดที่เกิดขึ้น

หลังจากที่หายนะของ Terra (UST) ที่หลุดจากการตรึงมูลค่าที่สั่นสะเทือนอุตสาหกรรม Crypto ในวงกว้างได้สงบลง นักลงทุนจำนวนมากได้ไปที่ฟอรัม Reddit เพื่อระบายอารมณ์ในความสูญเสียของพวกเขา

ในเรื่องการสูญเสียเงินทุนไปนั้น นักลงทุนสมัครเล่นที่ใช้นามแฝงว่า @PersianCapital ทวีตว่า Terra ควรชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ

PersianCapital ระบุว่าในการทำให้ “กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง” ตามที่ฟอรัม Terra แนะนำ มันสามารถเกิดขึ้นได้ 2 วิธี “วิธีที่ 1 คือการส่งคืน เช่นว่า 30 เซ็นต์ต่อแต่ละ UST ที่ลงทุนไปในกระเป๋าเงินทุกใบ วิธีที่ 2 คือให้ลำดับความสำคัญต่อกระเป๋าเงินรายย่อยก่อน ผู้ที่มี UST ไม่กี่พันหรือมากกว่านั้นที่ฝากใน Anchor [‘ธนาคาร’คริปโตของ TerraForm Labs] หาก Terra มุ่งเน้นไปที่ “เหล่าผู้ที่ยากจนที่สุด” ที่มีอยู่กว่า 99.6% พวกเขาก็จะสามารถทำให้กลุ่มขนาดมหึมานี้กลับมาสมบูรณ์ได้ 100%” ซึ่งจะดีต่อความรู้สึกของชุมชน เขากล่าวเสริม

Buterin ให้การสนับสนุน

Vitalik Buterin ก็เห็นด้วย “ผมสนับสนุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ความเห็นอกเห็นใจและการบรรเทาทุกข์ต่อนักลงทุน UST รายย่อยที่ได้รับแจ้งเรื่องโง่ๆ เกี่ยวกับ ‘อัตราดอกเบี้ย 20% ของดอลลาร์สหรัฐฯ’ จากปากพวกอินฟลูเอ็นเซอร์ ว่ามันเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล และ SFFL [เสียใจกับการสูญเสียของคุณ] ที่บอกแก่พวกที่มั่งคั่ง” เขาทวีต

Buterin กล่าวว่านี่คือตัวอย่างของ Federal Deposit Insurance (FDIC) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะจ่ายสูงถึง 250K ดอลลาร์ในการสูญเสียของค่าเงินดอลลาร์ในผลิตภัณฑ์ของธนาคารทุกประเภทที่เข้าเงื่อนไขหากธนาคารเป็นผู้ประกัน FDIC หากธนาคารล้ม

FDIC ก่อตั้งขึ้นในปี 1933 โดยประธานาธิบดี Franklin D. Roosevelt หลังจากพลเมืองสหรัฐฯ เร่งรุดไปที่ธนาคารเพื่อเปลี่ยนเงินฝากเป็นเงินกระดาษหรือทองคำ

ธนาคารไม่สามารถจัดหาสกุลเงินที่ต้องการได้ ทำให้หลายสกุลเงินปิดตัวลงในช่วงต้นของวันที่ 3 มีนาคม 1933 ในเวลานั้น Roosevelt อ้างว่า “ความเชื่อมั่นของประชาชน” สำคัญกว่าสกุลเงิน ซึ่งสอดคล้องกับแถลงการณ์ล่าสุดของ @PersianCapital

Buterin ยังเรียกร้องให้เกิดความสนใจต่อกฎหมายแรงงานของสิงคโปร์ที่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่าในการปกป้องผู้ที่มีรายได้น้อยกว่าผู้ที่มั่งคั่ง